ยิ่งเฉพาะสักลายใหญ่ 3-4 ชั่วโมงขึ้นไป ของที่จะให้เตรียม5อย่างต่อไปนี้จะจำเป็นระดับนึงเลย จะช่วยให้งานสักหลายๆชั่วโมงผ่านไปอย่างสบายๆที่สุด   1.เพาเวอร์แบงค์  ยุคที่เราสไลด์หน้าจอมือถือบ่อยยิ่งกว่าอะไรดี แบบนี้ไม่น่าสนุกแน่ๆถ้าแบตโทรศัพท์จะหมดระหว่างวัน การเล่นโทรศัพท์ไป  และปล่อยให้ช่างได้สักไป  เป็นอีกหนึ่งการเบนความสนใจของเราออกจากรอยสัก ช่วยลดความเจ็บลงไปได้มากอยู่น๊ะจ๊ะ  หากใครไม่มีเพาเวอร์แบ๊งล่ะก็ พกแค่สายชาร์จแบตไปก็ยังดี บางร้านมีที่ให้ลูกค้าชาร์จโทรศัพท์ด้วยนะจ๊ะ     2.หูฟัง มีโทรศัพท์แล้วแบตก็เต็มพร้อม  จะขาดหูฟังไปได้ยังไงครับ  เป็นอีกไอเทมที่ค่อนข้างสำคัญ  บางคนก็อาจจะไม่ชอบเสียงของเครื่องสัก เพราะบางทีเครื่องคอยที่ช่างใช้ ก็เสียงดังเอามากๆเลย  อาจจะดังจนลูกค้าบางคนรำคาญจนปวดหัวไปเลยก็มีครับ การมีหัวฟังดีไว้ฟังเพลงเบาๆ  หรือดูหนังฆ่าเวลาก็เป็นอะไรที่ออกจะดีเลย   3.ผ้าปิดตาหรือแผ่นความเย็น บางทีช่างสักก็ต้องใช้โคมไฟหลายตัวเพื่อช่วยในการทำงานใหญ่ๆ อาจจะทำให้เราแสบตา และบวกกับความเจ็บอาจจะพาลไปปวดหัวเลยก็เป็นได้ หากรู้สึกเมื่อยๆเพลีย แนะนำให้ใช้ผ้าปิดตาหรือเยลลี่ผิดตาจะมีลักษณะเย็นๆซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ราคาไม่แพงมากแอดเคยซื้ออยู่ ใช้ผ้าปิดตาฟังเพลงเบาๆจะช่วยให้อารมณ์ผ่อนคลายมากๆ   4.ของกิน+เครื่องดื่ม ช่วงเวลาการสักที่ยาวนาน  สักไปสองสามชั่วโมงอาจจะมีการพักเบรคบ้าง   การเติมพลังด้วยของกิน เช่นกล้วยซักลูก ขนมปังซักแผ่น หรือแม้แต่ของหวานอย่างช็อคโกแลตตามด้วยน้ำดื่มดับกระหายจะช่วยได้มากเลยครับ     ทำให้มีแรงในการต่องานจนจบ     5.ชุดเสื้อผ้าที่เหมาะสม การใส่เสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย  รวมถึงคำนึงถึงพื้นที่งานสักจะทำให้ช่างทำงานง่ายขึ้น  และยังทำให้ตัวเรามีความคล่องตัว ไม่มีอาการรู้สึกอึกอัดเพราะท่าทางไม่สบาย   เพราะฉะนั้นถ้ารู้ว่าต้องสักหลังเลิกงานหรือสักหลังจากที่ไปทำธุระมา การเอากางเกงบอลเสื้อกล้ามยัดใส่กระเป๋ามาเปลี่ยนที่ร้าน  จึงเป็นอีกข้อที่เราอยากจะแนะนำ  นอกจากของทั้ง 5 อย่างที่กล่าวมานี้ ยังมีอีกหลายๆอย่างซึ่งแล้วแต่สะดวก  แต่ทั้ง5อย่างนี้ล้วนเป็นของที่พกง่ายไม่หนักกระเป๋า  จึงอยากแนะนำเท่าที่จำเป็นเพียงนี้ไปก่อนครับ   เอาล่ะครับแอดมินก็ได้แนะนำ 5 ไอเทมที่ควรเตรียมมาในวันสักกันแล้ว หวังว่าท่านผู้ชมผู้ฟังทั้งหลายจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมในการ เตรียมตัวเข้าสู่สังเวียนบนเตียงสักกันแล้ว  ขอให้รอยสักต่อๆไปผ่านไปได้ด้วยดี  ได้รับคุณภาพงานที่พึงพอใจกันถ้วนหน้านะคร้าบบ  ...

นี่คือบล็อกแนะนำสไตล์การสัก  ที่อิงมาจาก"ความเห็นส่วนตัว" จากการที่คลุกคลีอยู่กับร้านสักมาพอสมควร จึงได้นำมาเล่าและบอกต่อสู่กันฟัง  รวมทั้งได้รวบรวมข้อมูลส่วนหนึ่งมาจาก PINTEREST ภาพแบบและดีไซน์ที่ถูกชมและเก็บเป็นพินเยอะที่สุด  คือสไตล์ไหนบ้างเรามาเริ่มกันได้เลย

1.MINIMALS TATTOO |  รอยสักไซส์มินิ

งานมินิมอล เป็นสไตล์ที่เหมาะเหม็งมากๆ สำหรับ"สตรีเพศหญิง"และผู้ที่เพิ่งตัดสินใจจะมีรอยสักครั้งแรก! แต่ก็ใช่ว่าไม่เหมาะกับผู้ชายแต่อย่างใด  แต่จะเห็นได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าเท่านั้นเอง 80% ของท่านสุภาพบุรุษทั้งหลายจะเอียงไปทางรอยสัก ไซส์Mขึ้นไป ซึ่งแอดก็มองว่าเป็นขนาดที่กำลังพอดี กับขนาดร่างกาย ของท่านชายทั้งหลาย มันจะดูดีกว่าการที่จะใส่รอยสักรูปแมวเท่าเหรียญบาท ลงบนกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ😲

2.M-SIZE | รอยสักขนาด10*10 CM

ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด  ในขนาดไม่เกิน 10-15เซ็นติเมตร  แนวทางส่วนมากจะเน้นไปทางลายเส้นง่ายๆกับคาแรคเตอร์ที่ชื่นชอบ ไม่มีความซับซ้อน ให้เราต้องตีความหมายแต่อย่างใด  มองดูแล้วมันดูง่ายๆสบายตาไม่หนักสมอง แต่มีเสน่ห์ในแบบของอาร์ตๆ เป็นอะไรที่บอกถึงสไตล์ของเจ้าของว่าเป็นคนที่ง่ายๆ มีความสร้างสรรค์ และไม่ชอบการอยู่ในกรอบสักเท่าไหร่  

3.L-SIZE | รอยสักขนาดไม่เกินกระดาษ A4

ยังมีบางคนที่คิดว่างานเล็กๆ 5เซ็น-10เซ็น อะไรงี้  ไม่เอาหรอกเล็กไป  มันไม่จุใจ  อยากได้ใหญ่ๆ เต็มๆหน่อยอ่ะ ลูกค้าที่เลือกสักงานลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ต้องการซ่อนความหมายลึกซึ้งไว้ในภาพ เช่น การเสียดสี การใส่ตัวตนที่ต้องการจะสื่อลงไปในงาน อะไรทำนองนี้ เนื่องจากลักษณะงานขนาดนี้ต้องมีพื้นที่ลงพอสมควร เช่น กลางหลัง แผ่นอก หน้าท้อง ต้นขา น่อง แต่ละที่ ที่ได้กล่าวมานี้เรื่องความเจ็บสุดๆทั้งนั้น หากเป็นครั้งแรก ช่างสักควรอธิบายทุกๆอย่างให้ลูกค้ารับทราบและเตรียมตัวไว้ด้วย ไม่ว่าจะชี้แจงถึงเวลาสักที่ค่อนข้างนานอาจจะ4-7ชั่วโมง ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายต่องานที่ต้องควักหนักนิดหน่อย  "จะสักทั้งทีเอาที่ดีๆไปเลย" สุดท้ายที่สำคัญคือวิธีการดูแลรักษาแผลสักจนกว่าจะหายดี  ต้องมีเวลาให้เขาสักนิด

4.BLACK AND WHITE |  งานขาว-ดำ ในสไตล์ต่างๆ

"งานขาว-ดำ"ที่ว่ามานี้มีเยอะ และหลากหลายสไตล์มากๆ  งานจะออกมาเป็นอารมณ์ไหน จะขึ้นอยู่กับช่างผู้ใช้เทคนิคในการสักนั้นด้วย เช่นงานดอท งานวิป  เรียลลิสติคหรือพอร์ตเทรต  เป็นต้น  สไตล์งานเป็นการเล่นกับแสงเงาของภาพ ด้วยเทคนิคการใช้เข็มและควบคุมเครื่องสักขั้นสูง ช่างที่ประสบการณ์ไม่ถึง อาจจะให้ความว๊าวแก่คุณไม่ได้เลย เพราะเป็นสไตล์งานที่เพียงแค่สบตา  อารมณ์ของภาพต้องแสดงความหมายออกมาชัดเจนอยู่แล้ว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ช่างสัก จะต้องมีอารมณ์ร่วมกับงาน เข้าให้ถึงตัวตนของคาแร็คเตอร์และจะให้ดีต้องรู้ใจลูกค้าที่เราสักอยู่ด้วย งานส่วนใหญ่จะเป็นอะไรที่มีคุณค่าและต้องการเก็บไว้เป็นสิ่งที่ระลึกของตัวผู้สักเอง ไม่ว่าจะเป็น ภาพครอบครัว คนรัก การ์ตูนหรือฮีโร่ที่ชื่นชอบ

5.TRADITIONAL  JAPANESE| งานสักญี่ปุ่น

จากประวัติการสักญี่ปุ่นในสมัยก่อน พูดถึงเรื่องการสักจะเป็นสิ่งที่ที่ตีตราทาส ชนชั้นยากจนและสังคมผู้ใช้แรงงาน จนถูกผู้คนเรียกว่า "ยากูซ่า"  แต่ในปัจจุบันนี้ไม่ใช่แล้ว    ทุกคนสามารถมีรอยสักได้ หมอ พยาบาล ข้าราชการ นักบิน เพียงแค่คุณปฎิบัติหน้าที่ของคุณได้ดี และยืนอยู่บนความเหมาะสม  การโดนผู้คนประนามในเรื่องนี้แทบจะไม่เกิดขึ้นเลย เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนสามารถทำอะไรกับร่างกายตัวเองได้อย่างอิสระ  และด้วยความที่"รอยสักญี่ปุ่น"นั้น มีประวัติ มีเรื่องราว และความหมายดีๆด้านความเชื่อจึงไม่แปลกและไม่ใช่เรื่องยาก ที่เหล่าพวกเราชาวรักงานสักทุกคนจะตกหลุมรัก จนอยากจะมีปลาคาร์ฟไว้ครอบครองสักตัว

6.AMERICAN TATTOO/OLDSCHOOL TATTOO | ลายสักอเมริกันสไตล์หรือโอลด์สคูล

เป็นงานอีกหนึ่งสไตล์ที่มีประวัติมายาวนานมากๆ  เริ่มจากสมัยก่อนผู้คนชาวเรือหรือกะลาสีเรือผู้ชื่นชอบศิลปะ ได้นำสิ่งที่ตนชื่นชอบมาสักให้เพื่อนบ้าง สักเองบ้าง ลายสักที่นิยมกันมาก ก็จะเป็น หญิงสาวสวยแก้มแดง นกนางแอ่นและกุหลาบ  สมอเรือหัวกะโหลก เป็นต้น "ลายเส้นหนาๆ  ลงสีพื้นๆ แน่นๆ นี่แหละคงเป็นเสน่ห์ของงานโอลด์สคูล"

7.FONT&LETTERING | งานฟอนต์หรือสคริปต์

แอดมินชอบเรียกสไตล์งานประเภทนี้ว่า "งานสักสุดเรียบง่ายสำหรับคนมีสาระ" เพราะลูกค้าส่วนมากที่ลูกสักงานสไตล์นี้มักจะมีความหมายสุดลึกซึ้งซ่อนไว้ในประโยคหรือตัวอักษรนั้นๆเสมอ เช่น คำคมที่มีความหมายต่างๆ  ชื่อคนในครอบครัว  เลขวันเกิด ประโยคจากเพลงหรือหนังที่ชื่นชอบ เป็นอะไรที่ดูเรียบง่าย   แต่มันไม่ไร้สาระเลยนะจ๊ะ

8.COLORFULL |  รอยสักสีสันสุดจี๊ด

เป็นการสักลายด้วยหมึกสีสันต่างๆ  เป็นงานเล่นสีโดยช่างสักมือโปรจริงๆ หรือจะเรียกงานสไตล์นี้ว่า "ไฮเปอร์-เรียลิสติค"แบบสี ก็ได้นะ เพราะจริงๆมันใช้เทคนิคเดียวกันนั่นแหละ คือภาพเสมือนจริงที่ช่างจะทำสีสันให้สวยสะดุดตามากๆ  เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้แก่ลูกค้ามากขึ้น และดูเหมือนจะมีคนชอบเยอะเสียด้วย ก็จะไม่ชอบยังไงไหวล่ะ  ก็เด่นมาซะขนาดนี้  หากช่างเล่นสีดีๆไล่โทนสีเก่งๆ นี่คือแจ่มสุดอ่ะ เห็นแล้วยังอยากได้บ้าง

9.MONOSTYLE | งานโมโน

รอยสักสไตล์นี้ส่วนใหญ่เป็นงานโทนสีเดียวกันทั้งภาพ  ดูเรียบร่าย มีความสะอาดอ้าน มองเห็นถึงประณีตของช่าง และความอดทนของผู้สักเลยทีเดียว  สร้างอารมณ์กลมกลืนแก่ภาพได้เป็นอย่างดี ให้อารมณ์เหมือนกำลังดูภาพถ่าย ในโหมดแต่งสีโมโนโทน  จะว่าไปดูคล้ายๆงานขาวดำเลยนะ แต่แอดว่ามันต่างกันตรงที่ งานโมโนจะเก็บรายละเอียดของภาพไว้เยอะกว่า และใช้เทคนิคที่สูงกว่าด้วยนะ

10.THAI TATTOO | สักยันต์

อย่างที่รู้ๆ ยันต์ไทยนี้มีมานานมากๆ  ได้ยินว่ามีมาก่อนสมัยสุโขทัยเสียอีก การสักยันต์จะสักด้วยมือใช้เข็มแท่งยาว แทงบนผิวหนังเป็นตัวอักษรต่างๆในลักษณะของผ้ายันต์   จริงๆแล้วยันต์ไทยจะไม่เน้นที่ความสวยงามสักเท่าไหร่ แต่ผู้สักจะมีความเชื่อทางไสยศาสตร์ หรือที่เรียกกันว่า  "พุทธคุณ" นั่นเอง ช่วงหลังๆยันต์ไทยเริ่มเป็นที่รู้จักและโด่งดังไปทั่วโลกโดยการที่มีดาราฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง "แองเจลิน่า โจลี่" และอีกหลายๆคนทั้งนักร้อง นักฟุตบอล  ที่ต่างพากันลงทุนบินมาสักถึงเมืองไทยกันเลยทีเดียว